เวบบอร์ดโพสฟรี ใหม่ล่าสุด

หมวดหมู่ทั่วไป => ลงประกาศฟรี ลงประกาศฟรีออนไลน์ เว็บลงประกาศขายฟรี => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 9 กรกฎาคม 2025, 14:08:08 น.

หัวข้อ: Doctor At Home: ความดันตกในท่ายืน (Orthostatic Hypotension)
เริ่มหัวข้อโดย: siritidaphon ที่ วันที่ 9 กรกฎาคม 2025, 14:08:08 น.
Doctor At Home: ความดันตกในท่ายืน (Orthostatic Hypotension) (https://doctorathome.com/)

ความดันตกในท่ายืน (Orthostatic Hypotension) หรือที่เรียกว่า ภาวะความดันโลหิตต่ำขณะเปลี่ยนท่า คือภาวะที่ความดันโลหิตลดลงอย่างรวดเร็วเมื่อมีการเปลี่ยนท่าทางจากท่านอนหรือท่านั่งเป็นท่ายืน ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอชั่วขณะ ซึ่งอาจนำไปสู่อาการต่างๆ ได้

อาการที่พบบ่อย
อาการมักเกิดขึ้นภายในไม่กี่วินาทีถึงไม่กี่นาทีหลังลุกขึ้นยืน และมักจะดีขึ้นเมื่อกลับไปนั่งหรือนอนลง อาการหลักๆ ได้แก่:

มึนงง วิงเวียน หน้ามืด คล้ายจะเป็นลม

ตาพร่ามัว มองเห็นไม่ชัด

อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย

เซ หรือรู้สึกเหมือนจะล้ม

ปวดศีรษะ

คลื่นไส้ หรือรู้สึกร้อนวูบวาบ

ใจสั่น (หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ)

บางรายอาจมีอาการ เป็นลมหมดสติ (Syncope) ได้

สาเหตุ
เมื่อเราลุกขึ้นยืน แรงโน้มถ่วงจะดึงเลือดส่วนหนึ่งลงไปรวมกันที่ขาและช่องท้อง ซึ่งอาจทำให้ปริมาณเลือดที่ไหลกลับสู่หัวใจลดลงชั่วคราว และทำให้ความดันโลหิตลดลงได้เล็กน้อย แต่โดยปกติร่างกายจะมีกลไกอัตโนมัติในการปรับตัว เช่น หลอดเลือดหดตัว และหัวใจเต้นเร็วขึ้น เพื่อรักษาความดันโลหิตให้คงที่ แต่หากกลไกเหล่านี้ทำงานผิดปกติ หรือมีปัจจัยอื่นร่วมด้วย ก็จะเกิดภาวะความดันตกในท่ายืนได้ สาเหตุที่พบบ่อย ได้แก่:

ภาวะขาดน้ำ: เช่น ดื่มน้ำไม่เพียงพอ, ท้องเสียรุนแรง, อาเจียนมาก, มีไข้, หรือออกกำลังกายจนเหงื่อออกมาก

ยาบางชนิด: ยาลดความดันโลหิต, ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านเศร้า, ยานอนหลับ, ยารักษาโรคพาร์กินสัน, หรือยาขยายหลอดเลือด

โรคหรือภาวะทางสุขภาพ:

โรคหัวใจ: เช่น หัวใจเต้นช้าผิดปกติ, ลิ้นหัวใจผิดปกติ, หัวใจล้มเหลว

โรคทางระบบประสาท: เช่น โรคพาร์กินสัน, โรคเบาหวานที่ส่งผลต่อเส้นประสาท (Diabetic Neuropathy), โรคปลอกประสาทเสื่อมแข็ง (Multiple Sclerosis)

ปัญหาเกี่ยวกับต่อมไร้ท่อ: เช่น ไทรอยด์ทำงานผิดปกติ, ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ

โลหิตจาง: ทำให้ปริมาณออกซิเจนในเลือดลดลง

การพักผ่อนบนเตียงนานๆ: ทำให้ร่างกายปรับตัวได้ไม่ดีเมื่อลุกขึ้นยืน

การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์: อาจทำให้ร่างกายขาดน้ำและหลอดเลือดขยายตัว

การรับประทานอาหารมื้อใหญ่: โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง อาจทำให้เลือดไปรวมตัวที่ระบบทางเดินอาหารมากขึ้น

อันตรายของความดันตกในท่ายืน
ความดันตกในท่ายืนอาจดูเหมือนไม่อันตรายในบางครั้ง แต่ก็สามารถก่อให้เกิดปัญหาที่รุนแรงได้ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ได้แก่:

การหกล้มและการบาดเจ็บ: เป็นอันตรายที่พบบ่อยที่สุดและร้ายแรงที่สุด เนื่องจากอาการมึนงงหรือหน้ามืดอาจทำให้หกล้ม เกิดการแตกหักของกระดูก หรือการบาดเจ็บที่ศีรษะได้

เป็นลมหมดสติ (Syncope): หากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ อาจทำให้หมดสติและล้มลงได้

บ่งชี้ถึงปัญหาสุขภาพที่ซ่อนอยู่: ในบางกรณี ความดันตกในท่ายืนอาจเป็นสัญญาณของโรคหรือภาวะทางสุขภาพที่รุนแรงกว่า เช่น โรคหัวใจ หรือโรคทางระบบประสาท

การวินิจฉัย

แพทย์จะวินิจฉัยจากประวัติทางการแพทย์และอาการ รวมถึงการตรวจร่างกาย ดังนี้:

การวัดความดันโลหิต: แพทย์จะวัดความดันโลหิตขณะนอนราบ และวัดซ้ำอีกครั้งหลังจากลุกขึ้นยืน 1-3 นาที หากความดันตัวบน (Systolic) ลดลง 20 mmHg หรือมากกว่า หรือความดันตัวล่าง (Diastolic) ลดลง 10 mmHg หรือมากกว่า ถือว่ามีความดันตกในท่ายืน

การตรวจเพิ่มเติม: อาจมีการตรวจเลือด, ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG), หรือการทดสอบอื่นๆ เพื่อหาสาเหตุที่ซ่อนอยู่

การรักษาและการจัดการ

การรักษาภาวะความดันตกในท่ายืนมักจะมุ่งเน้นไปที่การหาสาเหตุและแก้ไขสาเหตุนั้นๆ ร่วมกับการปรับพฤติกรรมและการดูแลตัวเอง:

การปรับพฤติกรรม:

ค่อยๆ ลุกขึ้น: ค่อยๆ เปลี่ยนท่าจากนอนเป็นนั่ง พักสักครู่ แล้วค่อยๆ ลุกยืนช้าๆ โดยอาจใช้มือจับยึดสิ่งของรอบตัว

ดื่มน้ำให้เพียงพอ: โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อน หรือมีการออกกำลังกาย

เพิ่มเกลือในอาหาร (ภายใต้คำแนะนำของแพทย์): ในบางกรณี การเพิ่มปริมาณเกลือเล็กน้อยอาจช่วยเพิ่มปริมาณเลือดได้ แต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ

แบ่งมื้ออาหาร: รับประทานอาหารมื้อเล็กๆ บ่อยขึ้น และหลีกเลี่ยงอาหารมื้อใหญ่ โดยเฉพาะอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตสูง

หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์: แอลกอฮอล์สามารถทำให้ร่างกายขาดน้ำและหลอดเลือดขยายตัว

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ: การออกกำลังกายเบาๆ เช่น การเดิน หรือว่ายน้ำ สามารถช่วยปรับปรุงการไหลเวียนโลหิตได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในสภาพอากาศร้อนจัด

การนอนยกศีรษะสูง: การหนุนศีรษะให้สูงขึ้นเล็กน้อยขณะนอนหลับ อาจช่วยลดผลกระทบจากแรงโน้มถ่วง

การออกกำลังกายบางท่าก่อนลุกยืน: เช่น การบีบไขว้ขา, การเกร็งกล้ามเนื้อต้นขา ก้น และหน้าท้อง ก่อนลุกยืน

การสวมถุงน่องรัดขา (Compression Stockings) หรือผ้ายืดรัดหน้าท้อง: ช่วยลดการคั่งของเลือดบริเวณขาและช่องท้อง

การปรับยา: หากสาเหตุเกิดจากยาที่กำลังรับประทานอยู่ แพทย์อาจพิจารณาปรับขนาดยา หรือเปลี่ยนชนิดยา

การใช้ยา: ในบางกรณีที่อาการรุนแรงและไม่ตอบสนองต่อการปรับพฤติกรรม แพทย์อาจพิจารณาให้ยาที่ช่วยเพิ่มความดันโลหิต

หากคุณมีอาการความดันตกในท่ายืนบ่อยๆ หรือรุนแรง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและวางแผนการรักษาที่เหมาะสม เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ