ผู้เขียน หัวข้อ: ยาชูกำลัง: วิธีปลุกพลังชาวออฟฟิศ เปลี่ยนเช้าวันทำงานให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า  (อ่าน 154 ครั้ง)

siritidaphon

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 363
    • ดูรายละเอียด
ยาชูกำลัง: วิธีปลุกพลังชาวออฟฟิศ เปลี่ยนเช้าวันทำงานให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า

ชาวออฟฟิศหลายคน คงเคยมีอาการง่วงหลังจากลืมตาตื่นได้ไม่กี่วิ หรือบางคนอาจกดเลื่อนนาฬิกาปลุกเป็นว่าเล่น เพราะลุกจากเตียงไม่ไหว วันนี้เลยมาพร้อมกับ 7 วิธีง่ายๆ ช่วยปลุกพลังในตอนเช้า ให้ชาวออฟฟิศมีแรงลุกมาทำงานได้แบบไม่งัวเงีย ทำยังไง ไปดูกันเลย!

อยากมีแรงลุกจากเตียงในตอนเช้า ต้องไม่เลื่อนนาฬิกาปลุก

วิธีปลุกพลังยามเช้า

เสียงนาฬิกาปลุก เป็นเสียงที่ดึงเราออกจากภวังค์ของการนอน สมองและร่างกายที่ถูกปลุกด้วยเสียงนาฬิกา จะเตรียมตัวรันระบบภายใน เพื่อเตรียมการให้เจ้าของร่างพร้อมที่จะตื่นและลุกขึ้นใช้ชีวิต แต่หากเรากด Snooze แล้วกลับไปนอนต่อ ทั้งสมองและร่างกายที่พร้อมจะตื่นก็จะถูกสั่งให้เข้าสู่กระบวนการนอนหลับอีกครั้ง การกดเลื่อนนาฬิกาปลุกไปเรื่อยๆ จึงเป็นพฤติกรรมที่ทำให้ร่างกายของเราสับสน รบกวนวงจรของการนอนหลับ ซึ่งจะทำให้ไม่สดชื่น เฉื่อยชา สมองตื้อ และไม่กระปรี้กระเปร่า เมื่อต้องลุกจากเตียง
เปิดไฟให้สว่าง หรือเปิดหน้าต่างรับแสงเพื่อกระตุ้นร่างกายให้พร้อมทำงาน

หลังจากตื่นนอนแล้ว อันดับแรกที่ควรทำ คือ เปิดไฟในห้องสว่าง หรือเปิดผ้าม่านเพื่อรับแสงธรรมชาติ เพราะแสงสว่างมีส่วนช่วยกระตุ้นร่างกายให้เริ่มทำงาน โดยเฉพาะกับแสงอาทิตย์ยามเช้าที่ช่วยกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งสารโดพามีน (Dopamine) ซึ่งเป็นสารแห่งความสุข ช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่า อารมณ์ดี และมีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมองอีกด้วย


ออกกำลังกายเบาๆ ยามเช้า เพิ่มความกระฉับกระเฉง

การออกกำลังกายช่วยให้เลือดสูบฉีด ซึ่งส่งผลให้สมองและหัวใจของเราได้รับการกระตุ้นไปพร้อมๆ กัน เป็นหนึ่งเทคนิคที่ช่วยสลัดความง่วงออกไปได้เป็นอย่างดี แต่ แนะนำว่า ให้ออกกำลังกายเบาๆ อย่างโยคะ ยืดเส้นยืดสาย หรือเดินเร็ว เพื่อไม่ให้ร่างกายเสียพลังงานมากเกินไป

อยากได้อุปกรณ์ออกกำลังกาย?

ทานอาหารเช้าเพิ่มพลังงานให้สมอง

ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่าง ชาวออฟฟิศหลายคนจึงเลือกที่จะไม่ทานข้าวเช้า แต่การทานข้าวเช้านั้น นอกจากเพิ่มพลังให้ร่างกายแล้ว ยังช่วยให้สมองทำงานได้เต็มที่มากขึ้น ลองคิดดูว่าหากต้องนั่งทำงาน หรือประชุม โดยที่ท้องร้องจ๊อกๆ จนเริ่มปวดแสบจากน้ำย่อย ก็คงเสียสมาธิไปไม่น้อย นอกจากนั้น การอดข้าวเช้ายังทำให้ระดับน้ำตาลลดลง ส่งผลให้ร่างกายอ่อนเพลีย ไม่กระปรี้กระเปร่า และโหยหาอาหารและน้ำตาลมากขึ้นในตอนเที่ยงอีกด้วย
 
วิธีปลุกพลังยามเช้า

เติมอาหารสมองด้วย Podcast ดีๆ หรือเพลงที่ชอบ

อีกหนึ่งเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความตื่นตัวและช่วยกระตุ้นสมองได้ ก็คือ การฟังเพลงที่ชอบ และ Podcast ดีๆ ลองหาเพลย์ลิสต์เพลงจังหวะสนุกๆ หรือเลือก Podcast ที่น่าสนใจ เปิดฟังระหว่างออกกำลังกาย ทานอาหารเช้า หรือช่วงเดินทางไปออฟฟิศ บางครั้งอาจได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการทำงานอีกด้วยนะคะ
เขียน To do list จัดระเบียบความคิดในแต่ละวัน

หากต้องไปทำงานแบบไม่มีแบบแผน รู้แต่ว่าต้องไปเคลียร์งานกองโตให้เสร็จแต่ไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง? รับรองว่าเช้าวันนั้นและวันทั้งวันคงไม่สดใสเป็นแน่ การเขียน To do list จึงเป็นอีกเทคนิคช่วยจัดระเบียบชีวิต กันหลงกันลืม ทำให้เห็นภาพรวมของงานที่ต้องทำในแต่ละวัน ช่วยให้เราสามารถจัดลำดับของงาน และแบ่งเวลาการทำงานแต่ละชิ้นได้อย่างเหมาะสม รับรองว่าช่วยให้เคลียร์งานได้เสร็จ ไม่ตกหล่น ไม่โดนคอมเพลน แฮปปี้และสดใสได้ทั้งวันแน่นอน


เพิ่มประสิทธิภาพให้การนอนหลับในแต่ละคืน

จะตื่นเช้าและใช้ชีวิตได้อย่างสดใส ช่วงเวลาก่อนนอนก็สำคัญ เพราะสิ่งที่จะช่วยลดอาการงวยเงียได้ดีที่สุด ก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ และเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้การนอน แนะนำว่าควรงดทานอาหาร เครื่องดื่มคาเฟอีน และแอลกอฮอล์ก่อนนอน อย่างน้อยประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายเข้าสู่กระบวนการพัก ไม่ต้องดึงพลังไปเผาผลาญอาหารตลอดเวลา นอกจากนั้นแนะนำว่าให้อ่านหนังสือแทนการเล่นสมาร์ทโฟน เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอเป็นตัวกระตุ้นให้สมองตื่น ทำให้หลับยากขึ้นนั่นเอง

สำหรับใครที่ต้องเคลียร์งานจนดึก หรือมีภาระอื่นๆ ให้ต้องทำจนเข้านอนไม่เป็นเวลาแนะนำ กฎการนอนหลับ 90 นาที ที่จะช่วยให้คุณตื่นได้เต็มตา ไม่งวยเงียแม้จะนอนน้อยก็ตาม อ่านได้ที่ นอนน้อยยังไงให้สดชื่น กับเคล็ด (ไม่) ลับ “กฎการนอนหลับ 90 นาที”

วิธีปลุกพลังยามเช้า

เพื่อให้เช้าวันทำงานสดใส สิ่งที่ควรทำ คือ ไม่หอบเอางานค้างกลับมาทำที่บ้าน วันหยุดควรเป็นวันที่ได้พักผ่อน อาจจะนอนเฉยๆ ดูซีรีย์ทั้งวัน หรือทำงานอดิเรกที่ชอบ เพื่อให้สมองได้พัก คิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องงาน และให้ร่างกายได้ชาร์จแบต เพิ่มพลังให้เต็ม พร้อมกลับมาทำงานในเช้าวันจันทร์ได้อย่าง Productive